บทความ

รูปภาพ
ระบบจ่ายไฟฟ้าในรถไฟฟ้า ลักษณะของการใช้พลังงานไฟฟ้าของรถไฟ กระแสไฟฟ้าให้พลังงานฉุดรถไฟ ซึ่งอาจใช้หัวรถจักรไฟฟ้าเพื่อลากตู้ผู้โดยสารหรือตู้สัมภาระหรือเป็นรถไฟที่ประกอบด้วยตู้ที่มีเครื่องยนต์ไฟฟ้าหลายตู้ ที่ซึ่งแต่ละตู้โดยสารรับกระแสไฟฟ้าเพื่อขับเคลื่อนด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งหัวรถจักร พลังงานจะถูกสร้างขึ้นในโรงผลิตเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่ประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสามารถ optimize ได้ พลังงานไฟฟ้าจะถูกลำเลียงไปยังรถไฟตามสายส่งแล้วกระจายภายในเครือข่ายทางรถไฟไปให้รถไฟตามที่ต่างๆ โดยปกติจะมีระบบภายในในการจัดจำหน่ายการใช้พลังงานและการเปลี่ยนแปลงของแรงดันไฟฟ้าที่จัดการโดยการรถไฟเอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนไปยังรถไฟที่กำลังเคลื่อนที่โดยผ่านตัวนำไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาหรือเกือบตลอดเวลา ในกรณีที่ใช้ระบบการจ่ายเหนือศีรษะ มักจะเป็นลวดเปลือยแขวนลอยอยู่ในเสาเรียกว่าสายส่งเหนือศีรษะ ตัวรถไฟมีเสายึดติดตั้งอยู่บนหลังคาซึ่งรองรับแถบตัวนำยึดติดกับหน้าสัมผัสด้วยสปริงรวมทั้งหมดเรียกว่า แหนบรับไฟ รายละเอียดหาอ่านได้ใน ระบบจ่ายไฟฟ้าเหนือหัว ส่วน รางที่สาม และ รางที่สี่ หาอ่านได้จากบทความตา...
รูปภาพ
S.L.M Winterthur หัวรถจักรดีเซล เอส แอล เอ็ม วินเตอร์เชอร์ รุ่น 21 - 22 หัวรถจักรรุ่นนี้มีจำนวน 2 คัน กำลัง 200 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 40 กม./ชม. รถจักรดีเซลรุ่นแรกที่นำมาใช้ในเมืองไทย  และเป็นประเทศแรกในเอเชียอาคเนย์ที่ได้นำรถจักรดีเซลมาใช้ ประเทศผู้สร้าง  สวิสเซอร์แลนด์ นำมาใช้ในปี พ.ศ. 2471 หัวรถจักรประวัติศาสตร์คันนี้ปัจจุบันตั้งอยู่ที่หน้าตึกบัญชาการรถไฟ Davenport 580 หัวรถจักรดีเซล Davenport รุ่น 571 - 585 หัวรถจักรรุ่นนี้มีจำนวน 15 คัน กำลัง 2 คูณ 500 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 92 กม./ชม. ประเทศผู้สร้าง  สหรัฐอเมริกา นำมาใช้ในปี พ.ศ. 2498 ปัจจุบันเลิกใช้งานและถูกตัดออกจากบัญชีแล้ว ภาพนี้ถ่ายที่ โรงรถจักรดีเซลบางซื่อ   HUNSLED หัวรจักรดีเซล HUNSLED รุ่น 23 - 27 รถจักรรุ่นนี้มีจำนวน 5 คัน สั่งซื้อจากประเทศอังกฤษ เครื่องยนต์ 8 สูบ 240 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 19.5 กม./ชม. ใช้งานเมื่อ ปี พ.ศ. 2508 ปัจจุบันบางคันยังใช้งานอยู่โดยใช้ในการสับเปลี่ยนเพื่อทำขบวนรถไฟ บริเวณสถานี คันนี้เลิกใช้งานแล้ว ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ พิพิธ...

ประเภทของรถจักร

รูปภาพ
ประวัติ รถจักรไอน้ำ   ร็อกเก็ต  ซึ่ง จอร็จ สตีเฟนสัน เป็นผู้ประดิษฐ์ ในปี  พ.ศ. 2357 รถไฟเริ่มเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกใน ประเทศอังกฤษ  เมื่อประมาณสามร้อยปีมาแล้ว เดิมทีเดียวสร้างขึ้นเพื่อใช้บรรทุก ถ่านหิน  รถนั้นมีล้อ แล่นไปตามรางและใช้ม้าลาก ต่อมาในปี พ.ศ. 2357  จอร์จ สตีเฟนสัน  (George Stephenson) ชาวอังกฤษ ได้ประดิษฐ์ รถจักรไอน้ำ  ชื่อว่า ร็อคเก็ต (Rocket)ซึ่งสามารถแล่นได้ด้วยตนเองเป็นผลสำเร็จ นำมาใช้ลากจูงรถแทนม้าในเหมืองถ่านหิน ภายหลังจากนั้นก็ได้มีผู้ประดิษฐ์ รถจักรไอน้ำ และรถจักรชนิดอื่นๆ ขึ้นอีกหลายแบบ รถไฟได้เปลี่ยนสภาพจากรถขนถ่านหินมาเป็นรถสำหรับขนส่งผู้โดยสารและสินค้า ดังเช่นในปัจจุบัน กิจการรถไฟของไทยนั้น ได้เกิดขึ้นเมื่อ  พ.ศ. 2429  ตรงกับรัตนโกสินทร์ศกที่ 105 ไทยได้ให้สัมปทานแก่บริษัทชาวเดนมาร์กสร้างทางรถไฟสายแรกจาก  กรุงเทพมหานคร  ถึง สมุทรปราการ เป็นระยะทาง 21 กิโลเมตร ในเดือนตุลาคม  พ.ศ. 2433   พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าให้ตั้งกรมรถไฟหลวงขึ้น โดยสังกัดกระทรวงโยธาธิการ ...

รางรถไฟในประเทศไทย

รูปภาพ
ประวัติ อดีตการเลือกขนาดรางรถไฟในการก่อสร้างนั้น ส่วนหนึ่งมาจากเงื่อนไขบางอย่างเพื่อตอบสนองเงื่อนไขในท้องถิ่น เช่น รถไฟรางแคบ ค่าก่อสร้างมีราคาถูกกว่า และสามารถเข้าพื้นที่แคบๆ ข้างหน้าผาได้ดี แต่รางรถไฟรางกว้างให้เสถียรภาพมากขึ้นและสามารถใช้ความเร็วสูงได้มากขึ้น ในบางประเทศ การเลือกใช้รางเป็นประเด็นทางการเมือง การปกครอง เช่น ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการใช้รางรถไฟรางแคบ ขนาด 1 เมตร ในดินแดนภายใต้อาณานิคม ของประเทศอังกฤษ และฝรังเศส เมื่อประเทศสยาม (ไทย) ได้สร้างรถไฟหลวงสายแรกเพื่อไปเชียงใหม่ โดยใช้ขนาด 1.435 เมตร มีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์อีกด้วยว่าในระหว่างความขัดแย้งทางการค้าไทยกับฝรั่งเศส ได้มีการทำสนธิสัญญาไว้ข้อหนึ่ง ซึ่งห้ามประเทศไทยสร้างทางรถไฟไปชิดชายฝั่งแม่น้ำโขง ทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือจึงสร้างไปหยุดที่ อำเภอวารินชำราบในจังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดอุดรธานี [3]  สำหรับทางรถไฟสายใต้นั้นก่อสร้างด้วยเงินกู้จากประเทศอังกฤษ ซึ่งประเทศไทยจำยอมต้องสร้างด้วยขนาด 1.00 เมตร ด้วยเหตุผลที่อังกฤษตั้องการใช้เป็นเส้นทางเชื่อมทางระหว่างมลายูกับพม่า ซึ่งเป็นรางขนาด 1.00 เมตร...